มีการนำสุนัขสายพันธุ์ต่างๆ ที่มีจุดเด่นเรื่องความเร็ว และ เสือชีต้าร์ ที่มีชื่อเสียงด้านความเร็ว
ในการวิ่งไล่เหยื่อยมาทดสอบความเร็วกัน เพื่อหาว่า ใครที่จะเป็นผู้ครอบครองตำแหน่งสัตว์ที่วิ่งเร็วที่สุด
เมื่อสัญญาณในการเริ่มการแข่งขันนั่นคือเสียงปืนดังขึ้น และประตูกรงเปิดออก
สุนัขทุกตัวพากันออกวิ่งอย่างไว แต่เมื่อหันกลับไปมองข้างหลัง กลับเห็นว่าชีต้าร์ยังนั่งนิ่ง ไม่ขยับตัววิ่งสักที
จนพวกหมาถึงกับแปลกใจในสิ่งที่ชีต้าร์ทำ จบการแข่งขัน สุนัขตัวที่วิ่งเข้าเส้นชัยเป็นตัวแรก ได้เดินเข้าไปถามชีต้าร์
พร้อมกับความหยิ่งผยองในใจว่า “ทำไมเจ้าถึงไม่ออกวิ่ง มันเกิดอะไรขึ้น
หรือเพราะว่ากลัวแพ้จนขาสั่น ไม่กล้าขยับตัวเลยล่ะ ”
เสือชีต้าร์ จึงตอบกลับไปว่า “ปัญหาใหญ่ของในการแข่งในหมู่สุนัข คือ ถึงคุณจะเป็นผู้ชนะ คุณก็ยังถูกมองว่าเป็นแค่สุนัขตัวหนึ่งอยู่ดี”
ในบางครั้ง การพยายามที่จะโชว์ความสามารถที่แท้จริงออกมา ในสนามการแข่งขันที่ผิดๆ
ก็คือการดูถูกศักยภาพของตัวเอง ยางสนามการแข่งขัน เราไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ตัวเอง
ในการแข่งขันที่ไร้สาระแบบนี้ เพื่อให้คนอื่นเห็นหรอก มันไม่มีประโยชน์อะไรเลย
เสือชีต้าร์ตัวนี้ได้คิดอย่างรอบคอบแล้ว ที่จะไม่ออกวิ่ง เพราะมันมองว่าไม่มีประโยชน์
โดยธรรมชาติของเสือแล้ว ส่วนใหญ่มักใช้เวลาไปกับการนอน
และการถนอมร่างกาย ประหยัดพลังงานเข้าไว้ เพื่อในการออกล่าจริงๆ จะได้มั่นใจได้ว่า สามารถวิ่งได้เต็มที่
เพราะชีต้าร์ต้องการใช้ความเร็วของตัวเองในการออกล่าสัตว์เท่านั้น ไม่ใช่เพื่อการแข่งขันกับหมา
เมื่อไหร่ก็ตามที่ชีต้าร์เริ่มออกวิ่ง นั่นคือ การออกล่า และในการแข่งขันครั้งนี้ไม่มีอะไรให้ล่า นอกจากหมาที่อวดเก่ง
เก็บแรงไว้ใช้ในช่วงเวลาที่สำคัญ อย่าเปลืองแรงไปกับการโอ้อวดแบบเปล่าประโยชน์