เพื่อชีวิตวัยใกล้เกษียณ ที่มั่นคง สงบ และมีความสุข บางอย่างวัยอย่างเรา ไม่สามารถทำตามอย่างพวกรุ่น
หรือทำตามใจตัวเองได้อีก เพราะฉะนั้น อ่านข้อความด้านล่าง แล้วจงปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตของคุณ เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น
1. หยุดปิดกั้นจิตใจตัวเองที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
ช่วงเวลาที่ผ่านมาคุณอาจจะพลาดอะไรหลายๆ ไปเพราะการปิดใจตัวเองไว้
เพียงแค่ลองเปิดใจและเรียนรู้ คุณจะพบว่า โลกมันกว้างกว่าที่คุณคิด
อายุเลขห้า ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้เรื่องใหม่ๆ คบกับเด็กรุ่นใหม่บ้าง
จะได้เข้าใจสังคมปัจจุบันมากขึ้น และลดปัญหาช่องว่างระหว่างวัย
2. หยุดนึกถึงความล้มเหลวในอดีตที่ผ่านมา
เพราะการคิดถึงแต่เรื่องร้ายๆ ที่ผ่านมาจะทำให้ความสุขที่คุณควรจะได้รับในปัจจุบันหายไป
คิดเสมือนว่า วันนี้เป็นวันสุดท้ายของคุณ แต่ลงมือทำเสมือนว่าคุณยังมีอายุยืนยาวได้ถึงแปดสิบ
3. หยุดโหยหาความรัก
สำหรับคนที่มีครอบครัว กลับมาดูแลคู่ชีวิต และลูกของคุณให้มากขึ้น
เขาเหล่านั้นเป็นคนที่หวังดีกับคุณ เต็มร้อยโดยไม่มีเงื่อนไข
สำหรับชายโสดไม่ง่ายที่จะหาคู่ชีวิตที่รักตัวคุณมากกว่ากระเป๋าสตางค์ของคุณ
หาหมามาเลี้ยงยังง่ายกว่าสำหรับหญิงโสด
คุณคงเคยชินกับชีวิตโสดแล้ว และรู้ว่าอยู่คนเดียวสบายที่สุดแล้ว
4. หยุดการเล่นอินเทอร์เน็ตที่มากเกินไป
คุณควรเริ่มทำอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันและมีคุณค่าดีกว่าเสียเวลากับ Social Network
ยกเว้นว่าคุณใช้ในการติดต่อเพื่อนฝูงเก่าๆ หรือหาข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์การเล่น
เฟซบุ๊ก เล่นไลน์ เล่นได้ แต่ต้องมีการจำกัดเวลาเพราะสิ่งเหล่านี้ล้วนทำให้คุณเสียเวลาและได้ประโยชน์น้อย
5. เลิกกังวลถึงการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย
เช่น ถุงใต้ตา, ตีนกา, เหนียงที่คอ หรือรอยย่นทั้งหลาย
ริ้วรอยเหล่านี้เป็นตัวบอกถึงประสบการณ์ที่คุณผ่านร้อนผ่านหนาวมา
คุณไม่สามารถหลีกเลี่ยงความแก่ได้ จงภูมิใจกับมัน ยอมรับมัน และจงแก่อย่างสง่างาม
6. หยุดทำร้ายร่างกายของคุณ
เช่น อดนอน, อาหารขยะ, กินโดยไม่ประมาณ, ขับรถเร็ว
และหันกลับมาดูแลร่างกายด้วยการออกกำลังกายหลายๆ
คนคงจะผลัดวันและเลี่ยงการออกกำลังกายมาตั้งแต่ยังเป็นหนุ่มสาวแล้ว
แต่เมื่ออายุเลขขึ้นห้า หมายความว่า ร่างกายคุณกำลังจะร่วงโรยแล้ว
ดังนั้น ควรหันมาใส่ใจกับการออกกำลังกายจริงๆ เสียที
7. หยุดลังเลเกี่ยวกับการทำงาน และการหางานใหม่
เมื่ออายุย่างเข้าวัย 50 คุณควรจะมีงานที่มั่นคง
และเป็นงานที่คุณรักจริงๆ ได้แล้วเพราะถ้างานนั่นไม่ใช่ตัวตนของคุณ
มันก็คงจะสายเกินไปที่จะไปเริ่มใหม่จงอดทนทำต่อไป
เพราะคุณคุ้นชินกับมันแล้ว ถ้าจะหางานใหม่น่าจะเป็นงานที่คุณอยากทำหลังเกษียณมากกว่า
8. หยุดการใช้จ่ายเงินอย่างฟุ่มเฟือย
ถ้าคุณเริ่มคิดเก็บเงินไว้ใช้หลังเกษียณ ดูเหมือนว่าค่อนข้างจะสายไปแล้วนะ
อายุเกิน 50 เท่าไร คุณควรมีเงินสะสมที่ใช้หลังเกษียณต่อปี
บวกไปอีก 10 ปีเช่น อายุ 51 ควรมีเงินสะสม 10+1=11 ปี
อายุ 52 ควรมีสะสม 12 ปี อายุ 60 ควรมีเงินสะสม 20 ปี
นั่นเป็นตัวเลขโดยประมาณว่า คุณจะจากไปตอนที่อายุ 80 ปี
9. ลดการทำงานหนักได้แล้ว
ถ้าคุณเป็นมนุษย์เงินเดือนภาคเอกชน อายุ 50 ถ้ายังไม่ขึ้นเป็นระดับผู้บริหาร
แสดงว่าคุณคงไม่อยู่สายตาเจ้านายเท่าไร อย่าเสียพลังชีวิตไปกับการทำงานหนักเลย
ใช้เวลาดูแลสุขภาพตัวเองให้มากขึ้นจะดีกว่า ถ้าคุณขึ้นเป็นระดับผู้บริหารที่ต้องทำงานหนักเพื่อบริษัท
ก็จัดสรรเวลาให้กับครอบครัว และสุขภาพตัวคุณเองบ้างถ้าคุณเป็นข้าราชการ
คุณมีความมั่นคง และมีเวลาว่างพอสมควรแล้วใช้เวลาดูแลสุขภาพ
และเตรียมงานอดิเรกหลังเกษียณได้เลย เช่นกัน ถ้าคุณทำงานอิสระ freelance
คุณสามารถทดลองเกษียณล่วงหน้าได้เลย ถ้าคุณมีเงินพอตามข้อ 1 แล้ว
ถ้าคุณเป็นเจ้าของกิจการคุณคงต้องเริ่มหาผู้ช่วยมือขวาที่ไว้ใจได้
มาช่วยคุณบริหารงานได้ โดยคุณสามารถออกมาดูแลห่างๆ
ได้แต่อย่าหวังว่า ลูกของคุณจะรับภาระนี้ ปล่อยให้เขาเลือกทางเดินชีวิตเองเถิด
10. เลิกแคร์ว่า คนอื่นในสังคมจะคิดถึงคุณอย่างไร
หน้ากากและหัวโขนจะอยู่กับคุณอีกไม่ถึงสิบปี หัดที่จะปล่อยวาง
และลดตัวตนของคุณลงบ้างกลับไปหาเพื่อนที่ดีและจริงใจกับคุณจริงๆ
ออกห่างจากคนที่ไม่จริงใจกับคุณหรือคนที่มาเพียงเพื่อจะเอาประโยชน์จากตัวคุณ หรือเอาเปรียบคุณ
ที่มา : ป๊ า ด โ ท้ ว