หนุ่มสาวคู่หนึ่ง ได้ชวนกันไปเที่ยวที่สวนสัตว์ ทั้งคู่เดินดูสัตว์ต่างๆ มาเรื่อยๆ จนมาถึงกรงลิง
และเห็นฝูงลิงกำลังเล่นกันสนุกสนาน ฝ่ายหญิงเหลือบไปเห็นลิงตัวผู้กำลังหยอกล้อลิงตัวเมีย
จากนั้นได้หยิบกล้วยส่งให้ลิงตัวเมียกิน เมื่อเห็นเช่นนี้ ฝ่ายหญิงจึงพูดกับฝ่ายชายว่า “ดูลิงคู่นั้นสิ ช่างเป็นคู่ที่น่ารักและน่าอิจฉาจัง”
ฝ่ายชายยิ้มให้กับฝ่ายหญิง โดยไม่ได้พูดอะไร และพากันเดินดูสัตว์ชนิดอื่นๆ ต่อไป
แล้วทั้งคู่ก็มาหยุดยืนที่กรงของสิงโต โดยเห็นสิงโตตัวผู้นอนอยู่มุมหนึ่งของโขดหิน
ในลักษณะนิ่งเงียบ ส่วนสิงโตตัวเมียก็นอนอยู่อีกด้านหนึ่งของกรง โดยไม่สนใจอะไรกันเลยเช่นกัน
เมื่อเห็นเช่นนี้ ฝ่ายหญิงจึงพูดกับฝ่ายชายว่า “ช่างเป็นคู่ที่จืดชืดเสียจริง ไม่มีความผูกพันธ์ ไม่มีการแสดงออกซึ่งความรักให้กันเลย”
พลางเหลือบมองไปที่ฝ่ายชาย เมื่อได้ยินฝ่ายหญิงพูดเช่นนี้
ฝ่ายชายจึงบอกฝ่ายหญิงว่า “เธอลองโยนก้อนหินสักก้อนไปที่สิงโตตัวเมียดูสิ”
ฝ่ายหญิงจึงได้โยนก้อนหินลงไปตามที่ฝ่ายชายบอก แต่เมื่อเธอโยนก้อนหินลงไป
สิงโตตัวผู้ก็กระโดดออกมาจากโขดหิน พร้อมกับคำรามด้วยเสียงอันดัง
และมองไปรอบๆ กรง เพื่อบอกว่ามันพร้อมจะปกป้องสิงโตตัวเมีย
เมื่อเห็นเช่นนี้ ฝ่ายชายจึงบอกฝ่ายหญิงอีกว่า งั้นเธอลองโยนก้อนหินอีกสักก้อนลงไปที่กรงของลิงดูสิ แล้วดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น
ฝ่ายหญิงจึงทำตามที่ฝ่ายชายบอก พอก้อนหินกระทบพื้นเท่านั้น ลิงแต่ละตัวต่างก็กระโดดหนีไปคนละทาง
เพื่อหาที่หลบซ่อนตามจุดต่างๆ เมื่อเห็นเช่นนี้แล้ว ฝ่ายชายจึงกล่าวกับฝ่ายหญิงต่ออีกว่า
“คราวหน้าก็อย่าด่วนตัดสินในสิ่งที่ได้เห็นเท่านั้น บางครั้งสิ่งที่เราเห็นเป็นแค่ฉากหน้า เป็นเหมือนภาพลวงตา
หรือเป็นเพียงแค่การใช้คารมหลอกลวง แต่เมื่อต้องเจอกับปัญหาจริง เราถึงจะรู้ว่าภาพอันแสนหวานนั้น กลับไม่มีความจริงใจในนั้นเลย”
และก็น่าเสียดายอีกเช่นกัน ที่สังคมของเราทุกวันนี้ มีลิงมากมาย แต่กลับมีสิงโตนิดเดียว