หมาที่ว่าดุ ยังไม่น่ากลัวเท่าใจคน (เรื่องนี้ให้ข้อคิดดีมาก)

หมาที่ว่าดุ ยังไม่น่ากลัวเท่าใจคน (เรื่องนี้ให้ข้อคิดดีมาก)

มีนักวิจัยพูดถึงเรื่องหมาไว้ว่า ธรรมชาติของน้องหมา อยู่ร่วมกันเป็นฝูง

ทั้งน้องหมาและมนุษย์ พึ่งพาอาศัยอยู่ร่วมกันมาช้านาน น้องหมามีความพยายามที่จะสื่อสารกับมนุษย์

น้องหมาใส่ใจกับผลประโยชน์ที่เท่าเทียม เมื่อเกิดความไว้ใจ ความซื่อสัตย์จงรักภักดีจะตามมา

มาฟังเรื่องเล่าสะท้อนใจ หมาๆ คนๆ กัน

ในซอยบ้านผมจะมีหมาตัวนึง มันคงไม่ค่อยชอบขี้หน้าผมเท่าไหร่ ทุกครั้งที่ผมเดินผ่าน หน้าบ้านมัน

มันจะเห่า กระโจนใส่ประตูเหล็ก อย่างบ้าคลั่ง ปานกับว่าผมเคยไปฆ่ าแม่มันต าย

เวลาผมไปซื้อของหน้าปากซอย ผมเคยเล่าให้พ่อฟังว่าไม่กล้าไป กลัวหมา

พ่อบอกผมว่า ไม่ต้องกลัวหรอก หมาที่ดุที่สุด ให้ลูกชิ้นมันทุกวันๆ ซักวันมันก็จะเชื่องเอง

นับแต่วันนั้นผมเจียดเงิน 5 บาท ซื้อลูกชิ้น 1 ไม้ ผมกินสองลูกแบ่งหมา 2 ลูกทุกวัน

วันแรกๆ มันแทบจะกระโดดกัดมือผมให้ได้ ถ้าไม่มีประตูเหล็กผมคงมือขาดไปแล้ว

วันเวลาผ่านไป ไม่นาน มันไม่เห่าผมอีกเลย กระดิกหางรอผมทุกเย็น

วันหนึ่งเจ้าของบ้านปิดประตูไม่สนิท มันวิ่งกระดิกหางมาหาผม

หยอกเล่นกับผม สนุกสนาน ตั้งแต่วันนั้นเราเป็นเพื่อนกัน และวิ่งเล่นกันมาโดยตลอด

โตมาผมจึงนึกถึงคำพ่อสอน หมาที่ว่าดุๆ เราหยิบยื่นไมตรีให้ มอบความเป็นมิตรให้ ดุแค่ไหนก็กลายเป็นเชื่อง

แต่กับคน ต่อให้เราดีแค่ไหนจริงใจแค่ไหน เลี้ยงอาหารดีแค่ไหน ก็ยังหักหลังเราได้

ลูกชิ้นไม่กี่ไม้ ซื้อใจหมาได้ตลอดชีวิต กับคน ต่อให้เลี้ยงดีแค่ไหน ก็เชื่อใจไม่ได้จริงๆ

หมาที่ว่าดุ ยังไม่น่ากลัวเท่าใจคน ลูกชิ้นไม่กี่ไม้ ซื้อใจหมาได้ตลอดชีวิต แต่ใจมนุษย์คิดไม่ซื่อ ไม่มีความซื่อสัตย์เท่าใจน้องหมา