เขาว่ากันว่า แข่งเรือแข่งพายแข่งได้ แข่งบุญแข่งวาสนาแข่งไม่ได้ นั้นคือการสอนให้พอใจในวาสนาของตัวเอง
คำที่ว่า แข่งเรือแข่งพายแข่งได้ แข่งบุญแข่งวาสนาแข่งไม่ได้ คำนี้เราได้ยินกันจนคุ้นหู
ดังนั้น เมื่อรู้อย่างนี้ จงพอใจใน “วาสนา” ของตัวเอง จากหลวงตามหาบัว นับว่าเป็นบุญวาสนา
ที่คนอย่างเราได้เกิดมา เมื่อคนเราได้เกิดมาแล้ว จงพอใจในวาสนาของตนเอง
อย่าได้คิดไปเปรียบเทียบกับใคร ให้เรารู้สึกด้อย เพราะคนเราแต่ละคนเกิดมาแต่ละคน ต้นทุนชีวิตต่างกัน
จนรวยไม่เท่ากัน นั้นเป็นเรื่องธรรมดา การปฏิบัติตามศาสนาธรรมของพระองค์
มนุษย์อย่างเราเฉพาะอย่างยิ่งชาวพุทธเป็นผู้ได้เปรียบแก่สัตว์ทั้งหลายอยู่มากมาย
คนเราเกิดมามีความคิด สามารถประกอบอาชีพเพื่อหาเลี้ยงตัวเองได้ ได้ชื่อว่าเป็นสัตว์ประเสริฐ
ใยเราต้องไปน้อยใจในวาสนา ให้เป็นทุกข์ใจตัวเอง เรายังมีดีและได้เปรียบสัตว์ทั้งหลายเหล่านั้น
ดังนั้นแล้ว เราจงมองหาสิ่งที่ดีในตัวเอง แล้วนำเอามาใช้ อย่าเฝ้ารอหาวาสนาให้ลอยเข้ามาหา
แต่จงลงมือทำ ให้ชีวิตมีความสุขได้ คนบางคนเฝ้ารอแต่บุญ แต่วาสนา
รอบุญเก่า ให้พาชีวิตเจริญรุ่งเรือง แต่ไม่ยอมลงมือทำ วาสนานั้นจะเกิดขึ้นมาได้อย่างไร
คนเรานั้น ไม่ต้องเอายาพิษเป็นฟืนเป็นไฟเข้ามาเผาภายในจิตใจ ขอให้พอใจในอำนาจวาสนาของตัวเอง
หากเราพอใจในสิ่งที่ตนมีแล้วนั้น จิตใจเราจะไม่ต้องการอะไรเพิ่มขึ้นมาอีก นอกจากสิ่งที่ตนเองมี
ความทุกข์ร้อนใจก็จะไม่เกิด เราเกิดมาในชาตินี้ ได้มอบกาย ถวายชีวิตกับพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์
เรียกว่ามอบกับธรรมชาติอันประเสริญแล้ว ดังคำกล่าวของ (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)
อย่างไรก็ตาม อย่าได้เอาตัวเรา ไปเปรียบเทียบกับเพื่อน หรือใครๆ เด็ดขาด
เพราะจะทำให้เราเป็นทุกข์เสียเอง คำว่าแข่งเรือแข่งพายแข่งได้
แข่งบุญแข่งวาสนาแข่งไม่ได้ จะคอยเตือนใจเราให้พอใจในสิ่งที่ตนมี และไม่คิดแข่งกับใคร
นอกจากเอาชนะใจตนเอง ให้พอใจในวาสนาของเราเอง