เราคงเคยได้ยินคำกล่าวจากผู้หลักผู้ใหญ่บ่อยๆ ว่า หากศีลไม่เสมอกัน คงคบกันไม่ได้
ซึ่งนั่นเป็นประโยคที่ใช้ได้กับทั้งการคบเพื่อน หรือแม้กระทั่งการคบกันเป็นคู่ชีวิต
หลายคนก็คงยังไม่เข้าใจอย่างแท้จริงว่าประโยคนี้หมายถึงสิ่งใดได้บ้าง
วันนี้เราจะมาพูดถึงนิยามในประโยคสั้นๆ ของประโยคนี้กัน หากเป็นการทำให้ทุกคนมีความคิดที่แตกฉาน
และเข้าใจมากขึ้นก็สามารถนำเอาไปปรับใช้ในชีวิตได้ ถ้าคุณอยู่กับคนใจกว้าง คุณจะมีการใช้ชีวิตทางสังคมที่กว้างขวางมากยิ่งขึ้น
มีการใช้ชีวิตที่กว้างขึ้น หากคุณอยู่กับคนมีบุญ คุณจะมีจิตใจที่เมตตา มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อเพื่อนมนุษย์มากยิ่งขึ้น
ถ้าคุณอยู่กับคนมองโลกในแง่ดี ตัวคุณนั้นจะมีความสุขไปตามแบบที่คุณต้องการ ในแบบที่มันจะเป็น
หากคุณอยู่กับคุณกล้าหาญ ตัวคุณเองจะมีความแข็งแกร่งมากินขึ้นกว่าเดิม
หากตัวคนนั้นคบกับคนที่ไม่เอาไหน วันๆ ก็ทำแต่เรื่องไม่ดี ก็จะพาทำให้ตัวคุณเป็นคนไม่เอาไหน
ยิ่งเราสนิทกับคนประเภทไหน นั้นแปลว่าตัวเราก็ย่อมเป็นคนแบบนั้นเหมือนกัน
หากตัวเราพูดคุยกับคนแบบไหน เรามีความสบายใจ ไม่อึดอัดใจ ให้รู้ไว้เลยว่าตัวเรากำลังจะเป็นพวกเดียวกับเขาแมลงวัน
มันจะไม่ชวนกันไปกินน้ำหวาน กินเกสรดอกไม้หรอกนะ แต่มันจะชวนไปกินของไม่ดี
เช่น เดียวกันคุณก็ไม่เคยเห็นตัวผึ้งชวนกันไปกินของไม่ดีเช่นเดียวกัน
เพราะพวกเดียวกันมันจะชอบทำอะไรเหมือนๆ กัน หากเราอยากเป็นคนแบบใด ก็ให้เลือกคบคนแบบนั้น
คุณอยากเป็นแมงวันหรือเป็นผึ้ง ก็สุดแล้วแต่คุณเลือกเองได้
คนเรานะหากมีศีลไม่เสมอกัน มันคบกันไม่ได้ หรืออาจจะคบกันได้แต่ปัญหาอาจจะตามมาเยอะ
คบคนแบบไหน ก็เป็นคนเช่นนั้นแหละ ถ้าคุณอยู่กับ “นักปราชญ์” คุณจะมีความรู้มากยิ่งขึ้น