เคล็ดลับการเก็บออม ของแม่บ้านชาวพม่า

เคล็ดลับการเก็บออม ของแม่บ้านชาวพม่า

กลายเป็นเรื่องราวที่มีการถูกแชร์เป็นอย่างมาก เมื่อมีคนมาพูดถึงในเรื่องของแนะนำวิธีในการเก็บเงิน

เป็นระยะเวลา 2 ปี แต่กลับมีเงินที่สามารถซื้อกองทุนไว้ได้ เรามาดูวิธีกันเลยว่าเขามีเคล็ดลับอย่างไร

โดยเนื้อหาในกระทู้นั้นเขียนไว้ดีมากๆ จึงนำมาแบ่งปันกันอ่านค่ะ

“ใครที่ไม่ค่อยมีเงินเก็บ เป็นหนี้ คงรู้สึกว่าทำไมการเก็บเงินมันยากจังเลย

ขอแชร์หน่อยนะคะว่าตัวเอง มีวิธีแนะนำแม่บ้านชาวพม่าที่ทำงานบ้าน

ยังไงจนตอนนี้เค้าสามารถซื้อที่สวนยางที่พม่าได้แล้ว

และยังมีเงิ นเก็บอีกสามหมื่นกว่าบาท ด้วยเวลาการเก็บเงินแค่ 2 ปี”

แม่บ้านที่บ้านชื่อวี (นามสมมุติ) ตอนนั้นทำงานกับที่บ้านมาได้ 5 ปี เป็นคนซื่อๆ ทำงานขยันดีมาก

เค้ามีเ งินเก็บนิดหน่อยเพราะเงิ นเดือนที่ได้ส่งกลับบ้านหมด มีเหลือใช้แค่เดือนละ 1,000 บาท

แต่ว่าเค้ากินอยู่กับเรานะ มีอยู่วันนึงก็คุยไปคุยมาเลยรู้ว่าเค้าไปกู้เงิ นเพื่อนคนพม่า ด อกเบี้ยร้อยละ 2

เพราะจะไปหุ้นซื้อที่สวนยางที่พม่ากับพี่สาวที่เป็นแม่บ้านเหมือนกัน ช็อคเลย ไม่ใช่ต กใจว่าเค้าจะซื้อที่นะ

แต่ต กใจเรื่องด อกเบี้ย เพราะมันตั้งปีละ 24% จะเป็นลม ค่าที่ทั้งหมด 5 หมื่น บาท เค้าหุ้นกับพี่คนละครึ่ง

แต่ก็ต้องไปกู้เพื่อนมา 10,000 บาท เราก็เลยตกลงกับเค้าว่า เดี๋ยวจะให้ยืมเงินไม่คิดดอกเบี้ย

แล้วเค้าผ่อนเอาเดือนละ 1,000 บาท สิบเดือน แต่ต้องรีบเอาเงินไปคืนเพื่อนซะ

โชคดีที่เค้าเพิ่งยืมเงินมาไม่ถึงอาทิตย์ แล้วเพื่อนก็ไม่ได้เป็นพวกกู้นอกระบบ

เลยยอมให้คืนเงินแต่โดยดี ไม่มีเรื่องเสียหายอะไร และไม่ต้องเสียดอกเบี้ยด้วย

คราวนี้ก็เลยมีโอกาสถามเค้าว่าที่ผ่านมามีเงินเก็บบ้างรึเปล่า ถึงได้รู้ว่าตลอดมาว่ามีเงิน

ก็ส่งไปให้ที่บ้านปลูกบ้าน ส่งเงินให้น้องเรียนมหาวิทยาลัยที่พม่าหมด

ตัวเงินมีเงินแค่เท่าที่ซื้อที่สวนยางเท่านั้น เราก็เลยก่ายหน้าผากทันที มันไม่ใช่ละ

เกิดแก่กลับไปอยู่พม่า จะเอาเงินที่ไหนกินอยู่ล่ะ 10 เดือนผ่านไปไวเหมือนโกหก

เมื่อวีผ่อนเงินเสร็จแล้วเลยจับเข่าคุยกันใหม่ แนะนำให้เค้าเปิดกองทุนพวกพันธบัตรเพื่อฝากเงินประจำ

ฝากเดือนละ 1,000 บาท เพราะตอนนี้ไม่ต้องคืนหนี้แล้วหนิ

ตอนที่พาวีไปธนาคารครั้งแรก เค้าตื่นเต้นมาก ตัวเกร็ง เพราะเป็นคนต่างด้าว

รู้สึกว่าการไปธนาคารมันเป็นเรื่องยาก ซับซ้อน แถมเปิดกองทุนอีก ดูงงไปหมด เอกสารก็เยอะแยะ

เจ้าหน้าที่ธนาคารก็งงเหมือนกันที่จะเปิดบัญชี เพราะไม่เคยทำให้คนต่างด้าว แต่เพราะตัวเองเป็นลูกค้าประจำ

ทางธนาคารก็เลยวางใจ และช่วยทำเรื่องให้เรียบร้อย หลังจากนั้นสิ้นเดือนก็จะคอยถามเค้าว่าจะฝากเงินไปธนาคารมั้ย

เค้าก็ฝากเงินมาให้ทุกเดือน เดือนละ 1,000 บาท ผ่านไปซักพักก็จะคอยให้กำลังใจโดยบอกเค้าว่า

เนี่ย วีไม่ได้ทำอะไรเลย ตอนนี้ได้ดอกเบี้ยแล้วนะ 200 บาท เค้าก็ดีใจมาก

พอฝากได้ซักครึ่งปี เงินก็เริ่มเยอะขึ้นเป็น 6,000 บาท ตัวเราก็ซื่อ ต้องการแสดงความบริสุทธิ์ใจ

ว่าทุกเดือนที่วีเอาเงินมาให้เราไปฝากธนาคาร เราก็เลยจะเอาสมุดบัญชีกองทุนให้ดู ปรากฏว่าวีบอกว่า

ไม่เอาค่ะ ไม่ต้องเอามาให้ดูนะคะ เดี๋ยวรู้ว่าเงินเยอะจะส่งกลับบ้าน เจ๋งอ่ะ เค้ารู้จักตัวเองว่าเป็นคนยังไง

และวิธีไหนที่จะควบคุมตัวเองได้ เพราะคนเรา พอรู้สึกว่าเงินเยอะก็จะใช้ไปเรื่อย สุดท้ายก็ไม่เหลือเก็บ

เมื่อสิ้นปี 58 ที่ผ่านมา ก็ครบ 1 ปี 1 เดือน วีมีเงินเก็บ 34,000 บาท (เป็นเงินฝากเดือนละพัน รวม 13,000 บาท

แล้วเค้าเอาโบนัสและเงินตรุษจีนฝากเพิ่มด้วย) แถมยังมีดอกเบี้ยตั้ง 500 บาท ปลื้มใจมากๆ เลย

แล้วปีนี้เค้าก็ยังจะทำต่อเนื่องอีก ดอกเบี้ยสิ้นปี 59 น่าจะได้ซัก 1,000 บาท

เพราะมีเงินต้นเดิมบวกกับเงินของปีนี้ที่ฝากทุกเดือน หวังว่าวิธีง่ายๆ ของแม่บ้านชาวพม่า

จะช่วยให้มนุษย์เงินเดือน หรือฟรีแลนซ์ มีเงินเก็บกันได้มากขึ้นนะคะ

ถ้าอ่านแล้วชอบ ฝากแชร์กันหน่อยนะคะ เพื่อคนรอบข้างของเราจะได้มีเงินเก็บไม่มีหนี้

ไว้วันหลังจะมาเล่าอีกเรื่องที่แนะนำเพื่อนที่เป็นครูให้เก็บเงิน จนตอนนี้เงินเก็บเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวละ