คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเงินคือสิ่งที่ทุกคนต้องการ หลายคนยอมทำงานหนักเพื่อแลกกับเงิน
แต่ไม่ว่าจะ พ ยา ยา ม ขนาดไหน รายได้กลับสวนทางไม่เป็นอย่างที่หวังเอาไว้ เพราะอะไร
ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่งคั่งและคนที่ประสบความสำเร็จด้านการเงิน ทุกคนบอกว่า
ก่อนที่เราจะสามารถมีเงินตามจำนวนที่ต้องการได้นั่นเราจะต้องคิด
และเชื่อว่าเราจะได้รับเงินจำนวนนั่นจริงๆ เสียก่อน เพราะความคิดจะทำให้เกิดความรู้สึก
ความรู้สึกจะทำให้เกิดการกระทำ และการกระทำจะนำไปสู่ผลลัพท์
ในที่สุดดังนั้นก่อนที่เราจะสามารถดึงดูดเงินให้เข้ามาหาเราได้
เราจึงต้องสร้างความรู้สึกมั่งคั่งและอุดมสมบูรณ์ให้เกิดขึ้น
ในสภาวะของจิตใจก่อน โดยใช้ขั้นตอนและวิธีการ ดังต่อไปนี้
1. สังเกตุว่าคุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับการเป็นคนรวย
ลองตั้งคำถามกับตัวเองว่าทัศนคติของคุณเกี่ยวกับคนรวยเป็นอย่างไร เช่น
-คนรวยเป็นคนไม่ดี
-คนรวยต้องมีโชค
-คนรวยต้องเอาเปรียบคนอื่น
-ฉันไม่สามารถรวยได้เพราะฉันไม่เก่งพอ
ความรู้สึกของคุณที่มีกับคนรวยในตอนนี้จะเป็นตัวกำหนดจำนวนเงินที่คุณจะมีหรือไม่มีในอนาคต
เพราะถ้าคุณรู้สึกไม่ดีกับความรวยมันจะเป็นตัวกำหนดให้คุณคิดว่าความรวยมันเป็นไปไม่ได้
สำหรับคุณ ความคิดด้านลบจะแยกคุณให้ออกจากสิ่งที่คุณต้องการ
เพราะความคิดและความเชื่อจะทำให้กลายเป็นความจริง ถ้าคุณคิดว่าคุณไม่สามารถมีเงินเยอะได้
และจะต้องยากจนไปตลอด สมองจะสั่งการให้คุณทำสิ่งนั้นให้เกิดขึ้น
สิ่งที่คุณเชื่อเกี่ยวกับการเป็นคนรวยในอนาคตจะเป็นตัวกำหนดว่าคุณจะรวยหรือไม่รวย
2. ทำความคุ้นเคยกับเงิน
บอกให้ตัวเองรู้ว่ารู้สึกยังไงเมื่อเห็นเงินในบัญชีหรือเงินในกระเป๋า
ผิดหวัง อาย หรือ รู้สึกไม่ดี แล้วพยายามปรับความรู้สึกให้ ตัวเองคุ้นเคยกับจำนวนเงินที่มีอยู่
โดยไม่รู้สึกเขินหรือต้องอายกับจำนวนที่มีมากหรือน้อย
เพราะถ้าคุณรู้สึกไม่ดีกับจำนวนเงินที่มีน้อย
มันจะยิ่งทำให้คุณรู้สึกขาดแคลนและหวาดกลัวเกี่ยวกับเงินมากขึ้น
จงคิดว่าเงินก็คือเงินเราไม่จำเป็นต้องอายเกี่ยวกับจำนวนของมัน
ถ้าเราสามารถยอมรับเงินโดยที่มีความรู้สึกดีกับมันไม่ว่าจะมีจำนวนใดก็ตาม
เราจะมีความสุขมากขึ้น ภูมิใจมากขึ้น และรักเงินมากขึ้น
เมื่อคุณรักเงินของคุณเงินก็จะรักคุณและเติบโตมากขึ้นเช่นกัน
3. เปลี่ยนความคิดเกี่ยวกับเรื่องเงิน
หากคุณกำลังคิดว่า คุณกำลังขาดแคลนเงิน หรือคุณไม่สามารถหาเงินจำนวนมากได้
จงหยุดความคิดนั้นซะ เพราะคุณสามารถเลือกที่จะเชื่อในส่ิงที่คุณต้องการสำหรับการเงินของคุณได้
คุณสามารถมีเงินจำนวนมากได้ มั่งคั่งและร่ำรวยได้ การใส่ทัศนคติที่ดีเกี่ยวกับเงินลงไปในสมอง
ตั้งแต่ต้นจะช่วยให้คุณสามารถทำในสิ่งที่ต้องการได้
และที่สำคัญมันสามารถดึงดูดเงินให้เข้ากระเป๋าของคุณได้มากขึ้น
4. หาสิ่งที่คุณกลัวเกี่ยวกับเงินแล้วกำจัดมันทิ้ง
คุณสามารถกลัวและเป็นกังวลเกี่ยวกับเงินได้ แต่คุณไม่จำเป็นที่ต้องให้ความสำคัญกับมัน
ถ้าหากมีความกลัวเกิดขึ้นให้คุณลองนึกถึงเรื่องเหล่านี้ดูมันอาจจะช่วยคุณกำจัดความกลัวออกไปได้
-อะไรคือสิ่งที่คุณต้องการในชีวิต
-ครอบครัวคุณจะเป็นอย่างไรถ้าไม่มีเงิน
-เป้าหมายของคุณคืออะไร
-เงินจำนวนเท่าไหร่ที่คุณต้องการ
ใช้คำถามเหล่านี้เป็นแรงผลักดันเพื่อหยุดความกลัวไม่ให้มันเกิดขึ้น
เมื่อคุณไม่มีความกลัวคุณก็สามารถคิดเกี่ยวกับเรื่องเงินได้มากขึ้น
5. อย่าปฏิเสธเงิน
เมื่อมีคนเสนอผลประโยชน์หรือเงินให้กับคุณตามความสามารถที่คุณมี
จงอย่าปฏิเสธหรือเลี่ยงที่จะไม่รับเงินเพราะถ้าคุณทำแบบนั้น
จะเหมือนเป็นการผลักใสไล่ส่งเงินให้ออกไปจากคุณ
มีคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่ต้องการรับเงินเมื่อมีผู้อื่นเสนอให้เพราะว่าพื้นเพของเขา
อาจจะมาจากความคิดที่เคยขาดแคลนเงินมาก่อน
ความคิดที่ว่า การเป็นผู้ให้ย่อมสุขใจมากกว่านั้นเป็นสิ่งที่ดีแต่คุณก็ต้องมีความยินดีที่จะเป็นผู้รับอย่างเต็มใจด้วย
เพราะถ้าคุณปฏิเสธเงินบ่อยๆ มันจะทำให้คุณกลายเป็นคนที่เกลียด
เงินแล้วสุดท้ายเงินก็ออกห่างไปจากคุณเรื่อยๆ จงฝึกความรู้สึกในการเห็นคุณค่าของตัวเอง
ที่เท่าเทียมกับจำนวนเงินที่ได้รับ แล้วคุณจะกลายเป็นแม่เหล็กดึงดูดเงินได้อย่างไม่สิ้นสุด
6. ใช้เงินให้คุ้มค่า
การประหยัดเงินไม่ใช่เรื่องที่ผิดอะไร แต่ไม่มีใครร่ำรวยได้ด้วยการประหยัดอย่างเดียว
การใช้จ่ายเงินอย่างคุ้มค่าจึงต่างจากการประหยัดเงิน
การใช้เงินอย่างคุ้มค่าคือการใช้เงินเพื่อทำให้เกิดผลลัพท์มากที่สุดกับจำนวนเงินที่คุณจ่ายไป
คุณอาจจะใช้เงินจำนวนมากไปกับสิ่งที่สร้างผลประโยชน์ให้กับคุณได้อย่างมหาศาล
และทำให้เงินของคุณงอกเงยได้ หากคุณต้องการจะประหยัดเงินไปด้วยก็สามารถทำได้เช่นกัน
แต่ในความประหยัดนั่น ต้องไม่เกิดจากความกลัวหรือความกังวลเกี่ยวกับเรื่องเงิน
7. เพิ่มมูลค่าไม่ใช่เพิ่มเวลา
คำกล่าวที่ว่า ขยันผิดที่ 10 ปีก็ไม่รวย คงจะเป็นความหมายที่ดูใกล้เคียงกับขั้นตอนนี้
จงเพิ่มมูลค่าให้กับตัวคุณเองมากกว่าจะไปเพิ่มเวลาในการทำงานให้มากขึ้น
เพราะรายได้ของคุณจะขึ้นอยู่กับความสามารถในการสร้างประโยชน์ให้กับคนอื่น
ตัวอย่างที่พอจะอธิบายให้เห็นภาพได้มากขึ้น ก็คือ
รายได้ของกรรมกรที่ทำงานก่อสร้างหรือแบกหามต่างๆ กับวิศวกรหรือผู้บริหารระดับสูงจึงต่างกันมาก
ทั้งๆ ที่คนทั้ง 2 กลุ่มนี้มีเวลาทำงานที่เท่ากันหรือคนกลุ่มหลังอาจจะทำงานน้อยกว่าด้วยซ้ำไป
นั่นคือความรู้ความสามารถ ที่เป็นมูลค่าเพิ่มของแต่ละบุคคลที่แตกต่างกัน
คุณค่าจึงเป็นตัวกำหนดรายได้นั่นเอง ยิ่งคุณเพิ่มมูลค่าให้กับตัวเองได้มากเท่าไหร่
คุณก็จะสามารถดึงดูดรายได้ของคุณได้มากขึ้นเท่านั้น
กระบวนการคิดและทัศนคติที่ดีเกี่ยวกับเงิน มีผลต่อความมั่งคั่งร่ำรวยของแต่ละบุคคลได้อย่างไม่น่าเชื่อ
ตามกฎแรงดึงดูดสิ่งที่เหมือนกันย่อมดึงดูดกัน
ถ้าคุณรักเงินของคุณ เงินก็จะรักคุณเช่นกัน ทั้ง 7 ขั้นตอน
ที่กล่าวมานั้นเป็นเพียงการปรับวิธีการคิด ให้เรามีทัศนคติที่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องเงินเสียก่อน
เพื่อเป็นการปูพื้นฐานไปสู่วิธีการสร้างเงินของแต่ละคนซึ่งอาจแตกต่างกันออกไปตามความถนัดของแต่ละคน
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกคนที่ได้ อ่าน บ ท ความนี้แล้ว จะมีเงินเพิ่มพูนมากขึ้นในบัญชีนะครับ