1. ไม่ควรทุ่มเทเวลาให้กับบริษัทมากเกินไป
จนลืมที่จะแบ่งเวลาให้กับครอบครัว คุณมีหน้าที่การงานที่ต้องรับผิดชอบและดูแล
ซึ่งคุณทำมันได้อย่างเต็มที่ แต่เมื่อถึงเวลาเลิกงานก็ควรจะหยุดการทำงานไว้ตรงนั้น
แล้วหันไปใส่ใจครอบครัว เพราะหลังเลิกงานควรเป็นเวลาที่คุณต้องทุ่มเท ให้ครอบครัวของคุณบ้าง
คนอื่นสามารถมาแทนตำแหน่ง หน้าที่คุณได้เสมอ แต่ครอบครัวไม่มีใครมาแทนที่กันได้
2. หากคุณต้องเจอมรสุมชีวิต
หัวหน้างาน หรือบริษัทของคุณ เขาคงไม่มานั่งสนใจหรือเห็นอกเห็นใจ คอยช่วยเหลือคุณหรอก
ถึงจะมีก็หายากมาก แต่คนที่เป็นทุกข์ไปกับคุณด้วย คอยอยู่ข้างๆ คุณนั้น มีแต่ครอบครัว ของคุณเอง
ดั่งคำที่ว่าปัญหาของบริษัทก็คือปัญหาของเรา แต่ปัญหาของเรา ไม่ใช่ปัญหา ของบริษัท จงเข้าใจและยอมรับให้ได้ว่ามันคือความเป็นจริง
3. ชีวิตนี้ไม่ได้มีแค่งาน
ในชีวิตเรา ยังมีอีกหลายอย่างที่สำคัญ อย่างการพบเจอเพื่อนฝูง
การเข้าสังคม การไปท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อนหาประสบการณ์ใหม่ๆ และเปิดโลกกว้าง
การออกกำลังกาย ดูแลตัวเอง ใช้เวลาอยู่กับคนรัก หรือครอบครัว สิ่งเหล่านี้ก็สำคัญสำหรับชีวิตไม่แพ้เรื่องงานเลย
เมื่ออยู่นอกเวลางาน ควรหากิจกรรมอย่างอื่นบ้าง อย่าทุ่มเทเวลาทั้งหมดในชีวิตให้งานซะหมด
เพราะบริษัทไม่สามารถคืนเวลาในชีวิตให้คุณได้หรอกนะ บางสิ่งบางอย่างผ่านไปแล้ว ก็ผ่านเลยไป
4. สำหรับคนที่ชอบทำงานล่วงเวลาเป็นประจำ
เพราะงานเสร็จไม่ทันเวลา คุณอย่าคิดว่า เป็นความขยัน
แต่มันคือ ตัวบ่งชี้ว่าคุณทำงานไม่ได้ตามเวลาการทุ่มเทให้กับงาน
ไม่ได้ดูว่าคุณใช้เวลาอยู่ที่ทำงาน มากแค่ไหน แต่อยู่ที่การทำงานให้เสร็จอย่างมีประสิทธิภาพ
โดยสามารถใช้เวลาได้น้อยที่สุดต่างหาก คนที่ทำงานเสร็จตามเวลาได้
คือคนที่มีความสามารถที่จะบริหารงานเป็น คุณต้องแยก ให้ออกว่าเวลางานคือเวลางาน
เวลาเลิกงานก็ต้องพักผ่อน อยู่กับครอบครัวแบบนี้ ถึงเรียกว่าเป็นคนที่จัดสรรเวลาเป็น และใช้เวลาได้อย่างคุ้มค่าที่สุด
5. หากคุณมีงานเยอะมาก
จนไม่สามารถทำเสร็จได้ทันตามเวลาเลิกงาน สุดท้ายก็ต้องอยู่ทำงานต่อดึกๆ ดื่นๆ
ให้รู้ไว้ว่าเป็นเพราะหัวหน้างานคุณไม่มีความสามารถ และไร้ประสิทธิภาพที่จะจัดการบริหารงาน
หัวหน้าไม่สามารถแจกจ่ายงานไปให้ลูกน้องทำ ให้พอดีกับเวลาได้ ไม่ใช่เพราะว่าคุณไร้ความสามารถ
6. งานเป็นสิ่งที่ไม่มีวันหมด
เมื่อคุณต้องการที่จะทำงานให้หมดเร็วๆ เพื่อที่จะได้มีเวลา ได้พักผ่อน และใช้เวลาอยู่กับครอบครัว
คุณจึงพยายามนั่งทำงานทั้งคืนให้เสร็จโดยเร็ว แต่กลายเป็นว่าคุณกลับได้รับงานใหม่เข้ามาเพิ่มอีก
และมันก็เป็นแบบนี้ประจำ เมื่อคุณทำงานเก่ง และทำเสร็จได้เร็ว คุณก็จะได้รับงานเพิ่มอีก เป็นรางวัลตอบแทน
7. หันมองดูเศรษฐกิจปัจจุบัน
หลายบริษัทไปต่อไม่ไหว ต้องปิดกิจการ บางคนตื่นไปทำงานตามปกติ
แต่กลับพบว่าตัวเองกลายเป็นคนว่างงาน หลายแห่งเริ่มนำเครื่องจักร มาใช้แทนแรงงาน
ชีวิตเราต้องเสี่ยงกับการถูกเลิกจ้าง ดังนั้นเราจึงไม่ควรทุ่มเทเวลา และกำลังทั้งหมดทำงานจนสุดชีวิต
เพื่อหวังให้บริษัทของคุณก้าวหน้า เพราะหากคุณ หมดประโยชน์เมื่อไหร่ เขาก็ไม่หันกลับมามองคุณอยู่ดี
เราไม่ได้บอกให้คุณไม่ทุ่มเท หรือไม่ใส่ใจกับการทำงาน การรักบริษัทและงานที่ทำนั้นเป็นสิ่งดี
แต่เราไม่ควรทุ่มเทหมดทุกอย่าง ทั้งชีวิตนี้ให้กับงานอย่างเดียว เพราะสุดท้ายแล้วงานไม่ใช่ทุกอย่างที่จะตอบโจทย์ให้กับชีวิตของเรา
เราต้องรู้จักแบ่งเวลาให้ถูก และทำในส่วนนั้นให้เต็มที่ในเวลาของมัน อย่าเอามาล้ำเส้น หรือแย่งเวลาของกันและกัน
คนที่สามารถบริหารเวลางาน กับเวลาชีวิตให้พอดีลงตัว คือคนที่มีประสิทธิภาพในการใช้ชีวิตที่สุด
ขอขอบคุณ : b i t c o r e t e c h